โฆษณาขายแท่งรมยาหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "โกฐจุฬาลัมพา" เอามาจุดเป็นอโรมาตำรับจีนแล้ว แทบเป็นลมสิ้นสติเลยทีเดียว
แอดมินประกาศเลยตรงนี้ว่า "ห้ามนำโกฐจุฬาลัมภามาจุดเป็นอโรมาเทอราพีเด็ดขาด" เพราะควันที่เกิดจากรมยาสามารถทำลายปอด เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด ไม่ต่างจากฝุ่นควันเลยทีเดียว และเพื่อความปลอดภัยต้องรมยาโดยแพทย์จีน หรือรมยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์จีนเท่านั้น
วันนี้แอดมินเลยขอพื้นที่ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าแท่งรมยานี้
การรมยา คือการนำใบไม้หรือสมุนไพรที่ติดไฟง่าย มาวางไว้บนจุดฝังเข็ม หลังจากนั้นก็จุดไฟทำให้เกิดความร้อน เพื่อกระตุ้นให้สมุนไพรนั้นแสดงปฏิกิริยาที่มีประโยชน์ทางเภสัชวิทยามารักษา ป้องกันโรค และส่งเสริมสุขภาพร่างกาย
สมุนไพรที่นิยมนำมารมยา คือ 艾草 หรือ 艾叶 (Artemisia argyi) รสเผ็ด ขม ฤทธิ์อุ่น ซึ่งเป็นพืชคนละวงศ์กับโกฐจุฬาลัมพา
วิธีการเตรียมสมุนไพร: นำ 艾草 หรือ 艾叶 ตากแห้ง บดเป็นผง นำมาปั้นเป็นก้อนหรืออัดแท่ง ควรเลือกใช้ชนิดที่มีสารเจือปนต่ำ
สรรพคุณของการรมยา:
- อบอุ่นเส้นลมปราณและขจัดความชื้น
- ทำให้เลือดและลมปราณไหลเวียน
- ใช้ในการห้ามเลือด
- ช่วยเสริมพลังหยางจากภาวะหยางพร่อง
- ป้องกันโรคและเสริมสร้างสุขภาพ
วิธีการรมยา มีหลากหลายวิธี เช่น รมยาโดยใช้กรวยโกฐ แท่งโกฐ หรือการใช้เข็มอุ่น เป็นต้น และควรทำหัตถการโดยแพทย์จีนหรือภายใต้คำแนะนำของแพทย์จีนเท่านั้น
ข้อควรระวัง
- ไม่ทำการรมยาให้ผู้ป่วยโรคกลุ่มอาการแกร่งและโรคกลุ่มความร้อน
- ไม่ทำการรมยาบริเวณท้องและหลังในผู้ป่วยตั้งครรภ์
- ไม่ทำการรมยาให้ผู้ป่วยหมดสติ แขนขาชา อัมพาต หากจำเป็นต้องรมยา ควรทำด้วยความระมัดระวังโดยแพทย์จีนเท่านั้น
- ระหว่างรมยาต้องระวังผิวของผู้ป่วยไหม้และพุพอง
- ขณะรมยาต้องทำในพื้นที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรสูดดมควันโดยตรง เพราะควันสามารถทำลายปอดได้ ทางที่ดีควรเชิญบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องและนำสัตว์เลี้ยงออกจากห้อง
การดูแลร่างกายหลังการรมยา
- หากเกิดร้อยไหม้ รอยแดง หรือเกิดถุงน้ำขนาดเล็ก ควรเช็ดทำความสะอาดระมัดระวังไม่ให้ถุงน้ำแตก
- หากมีรอยถุงน้ำขนาดใหญ่ ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาและทำความสะอาดแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ใครที่กำลังจะหาซื้อแท่งโกฐมาจุดเป็นอโรมาเทอราพี บอกเลยว่าอย่าหาทำกันเลยนะจ๊ะ