
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติก่อกำเนิดมาจาก “วิทยาลัยหัวเฉียว” ซึ่งมีรากฐานเติบโตมาจากโรงเรียนผดุงครรภ์อนามัย ก่อตั้งโดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยเปิดสอนหลักสูตรพยาบาลในระดับปริญญาตรีเป็นหลักสูตรแรก ต่อมาปี 2533 ในวาระที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งครบรอบ 80 ปี จึงได้ระดมทุนจากชาวไทยเชื้อสายจีน เพื่อก่อตั้งมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เมื่อปี 2535 ได้รับอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้นยกสถานะเป็นมหาวิทยาลัย และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามว่า “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ทั้งยังได้เสด็จพระราชทานทรงเปิดมหาวิทยาลัยและทรงปลูกต้นโพธิ์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2537 ยังความปลาบปลื้มและนับเป็นสิริมงคลอันใหญ่หลวงแก่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มหาวิทยาลัย และบรรดาชาวจีนโพ้นทะเลในดินแดนสยามที่ได้ร่วมแรงร่วมใจก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามหาวิทยาลัยกำหนดให้ วันที่ 24 มีนาคมของทุกปี คือ วันหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และสถาปนาต้นโพธิ์เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติได้มีการปรับกระบวนทัศน์ใหม่สู่ความเป็น New HCU ที่เป็นมากกว่าสถาบันการศึกษา โดยมุ่งสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ทุกช่วงวัยด้วยการวางแผนกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา
ช่วงที่ 1 ปี 2565-2569 (Period of Transformation) พลิกโฉมมหาวิทยาลัยสู่ 5 เป้าหมายหลัก ได้แก่
1. Niche University เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านจีนศึกษาและวิทยาศาสตร์สุขภาพ เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและอาเซียน
2. Lifelong Learning University เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต
3. Quality University เป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพระดับชาติและนานาชาติ เน้นผลผลิตนวัตกรรม วิจัย และงานบริการวิชาการที่ตอบสนองความต้องการชุมชนและสังคม บุคลากรมีศักยภาพระดับนานาชาติ
4. Digital Transformation เตรียมพร้อมมหาวิทยาลัยด้วยการนำเทคโนโลยีและดิจิทัล ขับเคลื่อนระบบการเรียนการสอน งานบริหาร และงานบริการ และ 5. Green, Good Governance, Self-Supporting and Sustainability University บริหารจัดการมหาวิทยาลัยและสิ่งแวดล้อมอย่างพอเพียง มีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน
ช่วงที่ 2 ปี 2570-2574 (Period of Recognition) สร้างการรับรู้มหาวิทยาลัยด้วยหลักสูตรที่แตกต่าง
เป็นที่ต้องการของตลาด โดยมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ สนองต่อความต้องการของผู้ที่ต้องการเข้ามาศึกษาทุกช่วงวัย บุคลากรมีศักยภาพระดับนานาชาติ มีศูนย์บริการด้านสุขภาพและด้านจีนที่สังคมยอมรับ
ช่วงที่ 3 ปี 2575-2579 (Period of Excellence) มุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านจีนศึกษา วิทยาศาสตร์สุขภาพ และโดดเด่นในการขับเคลื่อนการรับใช้สังคม
การปรับกระบวนทัศน์ใหม่สู่การเป็นมากกว่าสถาบันการศึกษาภายใต้แคมเปญ “ม.หัวเฉียวฯ เราเป็นมากกว่ามหาวิทยาลัย HCU More than a University” จากกระบวนทัศน์ใหม่ก่อเกิดการ Rebrand เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ข้อที่ 1 “Transform to Niche University” ด้วย Brand Tagline “ยืนหนึ่งเรื่องจีน รู้จริง ทำได้ ใส่ใจทุก Gen.” โดยได้ขยายขอบข่ายความชำนาญในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพและจีนศึกษาจัดตั้งเป็น ศูนย์บริการด้านสุขภาพและจีนศึกษา เพื่อบริการและให้ความรู้แก่บุคคล 3 วัย คือ วัยเรียน วัยทำงาน และผู้สูงอายุ ประกอบด้วย
-ศูนย์สุขภาพ (หน่วยเวลเนสและศูนย์ฟื้นฟู)
-ศูนย์ดูแลสุขภาพบุรุษและสตรีด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน
-ศูนย์นวัตกรรมเครื่องสำอางและสมุนไพร
-ศูนย์ยา มฉก.
-ศูนย์ข้อมูลการลงทุนไทย-จีน
-ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร-จีน
-ศูนย์บริการวิชาการ
-ศูนย์ปฏิบัติการโรงแรมศรีวารี พาวิลเลียน
-ศูนย์แนะนำกฎหมายสำหรับประชาชน
-ศูนย์แต้จิ๋ววิทยา
-หัวเฉียวสหคลินิก
-คลินิกกายภาพบำบัด
-คลินิกการแพทย์แผนจีน
-คลินิกเทคนิคการแพทย์
-หน่วยฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
-สถาบันขงจื่อการแพทย์แผนจีน
-สถาบันภาษา
-สถาบันวิทยาการผู้นำไทย-จีน
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติทำหน้าที่สถาบันอุดมศึกษาภายใต้รากฐานอันมั่นคงแห่งปณิธานและเจตนารมณ์แห่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในการผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้ประเทศชาติ โดยยึดกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีกระแสรับสั่งเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดมหาวิทยาลัยว่า “ขอให้ทำมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ดี” เป็นหลักสำคัญในการจัดการเรียนการสอนและการบริหารงาน มุ่งมั่นพัฒนามหาวิทยาลัยให้เจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างบัณฑิตที่รอบรู้ รู้ลึก รู้จริงปฏิบัติงานได้จริง ควบคู่กับการบ่มเพาะคุณลักษณะของนักศึกษาและบุคลากรให้เป็นไปตามอัตลักษณ์ คือ คุณธรรม 6 ประการ (ขยัน อดทน ประหยัด เมตตา ซื่อสัตย์ กตัญญู) ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีจิตอาสาพร้อมรับใช้สังคม โดยบุคลากรและนักศึกษาทุกคนร่วมกันคัดเลือกคุณธรรมหลัก 3 ประการ คือ ซื่อสัตย์ ประหยัด และรับใช้สังคม เป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่ยึดมั่นมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยกำหนดเป็นค่านิยมองค์กร คือ HCU ค่านิยมคนหัวเฉียวฯ ได้แก่ H คือ Honesty ความซื่อสัตย์ C คือ Community Engagement รับใช้สังคม และU คือ Ultimate Goal for Sufficiency ประหยัด
ในปี 2568 เป็นปีที่ครบรอบ 33 ปี ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัย และในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน มหาวิทยาลัยจึงได้จัดกิจกรรมวันหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2537 โดยมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย พิธีทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิทยาลัย พิธีพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีมอบเหรียญที่ระลึกแก่บุคลากรผู้ปฏิบัติงานครบ 10 ปี และแสดงความยินดีกับอาจารย์ที่ได้รับตำแหน่งทางวิชาการ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอน 12 คณะวิชา และ 1 วิทยาลัย ได้แก่ คณะกายภาพบำบัด คณะการแพทย์แผนจีน คณะเทคนิคการแพทย์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์และสวัสดิการสังคม คณะศิลปศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะนิติศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ และวิทยาลัยจีนศึกษา