รองศาสตราจารย์ ดร.อุไรพรรณ เจนวาณิชยานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (มฉก.) กล่าวต้อนรับผู้แทนจากส่วนราชการ ภาคเอกชน และองค์กรอิสระรอบมหาวิทยาลัย ที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมประชาคมเพี่อสร้างเสริมสภาพแวดล้อมของสังคมในชุมชนรอบมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ โดยการมีส่วนร่วม ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นครั้งที่ 11 จัดขึ้น ณ ห้องบรรยายพิเศษ 2 (สื่อประสม) ชั้น 2 อาคารบรรณสาร มฉก. พร้อมกันนี้ท่านอธิการบดีได้กล่าวเปิดการประชุมและขอบพระคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมดำเนินการกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับมหาวิทยาลัยด้วยดีมาโดยตลอด 10 ปีนี้
โดยส่วนหนึ่งของคำกล่าวท่านอธิการบดีต่อที่ประชุมประชาคมฯ มีดังนี้ “...ปณิธานของมหาวิทยาลัยของเราเป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งเพื่อที่จะทำงานเพื่อสังคมด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงเล็งเห็นความสำคัญของการอยู่ในชุมชนเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในชุมชนที่เราอยู่จึงมีเจตนารมณ์ว่า จะต้องสร้างเสริมคุณภาพสังคมในชุมชนแล้วก็ขับเคลื่อนให้ชุมชนของเรามีความเข้มแข็ง เพื่อประโยชน์กับนักศึกษาของเราซึ่งเป็นลูกหลานของท่านที่มาจากทั่วประเทศเข้ามาอยู่ในชุมชนนี้ด้วยความสุข ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี แล้วออกไปเป็นคนดีของสังคม ไม่ได้เอื้อประโยชน์เฉพาะนักศึกษาของเราแต่บุคลากรรวมถึงนักศึกษาทุกคนเข้ามาเรียนก็ต้องทำประโยชน์เพื่อคนในชุมชนนั้นด้วย เพราะฉะนั้นจึงเกิดกิจกรรมรวมตัวกันจากทุกภาคส่วนเพื่อทำงานช่วยเหลือชุมชนในสังคมของเรา อาจจะไม่ใช่เฉพาะชุมชนรอบ ๆ มหาวิทยาลัยอาจขยายออกไป ซึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่ทำมาแล้วมีหลายเรื่องหลายด้าน...ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนจริง ๆ จากที่ดำเนินการมาต้องบอกว่ามหาวิทยาลัยโชคดีมากที่ได้รับเกียรติจากทุกภาคส่วนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาคราชการที่ได้รับจากจังหวัดส่วนกลางหรือองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นหรือภาคเอกชนในหลาย ๆ สถานประกอบการก็เข้ามามีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น จนกระทั่งเข้ามาร่วมกิจกรรมหรือให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น กำลังทรัพย์ อุปกรณ์ ของต่าง ๆ ที่ทำให้โครงการเราดำเนินการไปได้ และต้องขอขอบคุณท่านรองศาสตราจารย์ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ที่ริเริ่มกิจกรรมดี ๆ หลาย ๆ อย่างเหล่านี้จนสำเร็จลุล่วงไปหลายกิจกรรม ซึ่งเอื้อประโยชน์มาก จนกระทั่งเราได้รับรางวัลหลายรางวัล เป็นมหาวิทยาลัยที่ดี ในนามของมหาวิทยาลัยก็ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งที่เสียสละทำงานเพื่อส่วนรวมร่วมกับเรามาโดยตลอดนับ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ดิฉันเชื่อว่าเราเป็นชุมชนที่มีความร่วมมือกันเป็นอย่างดีชุมชนนึงของประเทศไทย เราจะทำงานเพื่อสังคมต่อไปอย่างไม่ย่อท้อเพื่อชุมชนที่เราอยู่ เพื่อลูกหลานของเราทุกคน เป็นสังคมที่มีคุณภาพต่อไป สำหรับกิจกรรมในวันนี้เป็นการรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อร่วมมือร่วมใจกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้แล้วก็แสดงความคิดเห็น เพื่อพัฒนาการทำงานของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ดีขึ้น เป็นการแลกเปลี่ยนกันในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง...”